ความคิดของผมกับประเทศไทย
อธิบายความคิดของผม.. คิดคุณอย่างไรสามารถตอบได้ด้านล่าง [ความคิดของผมแปลกอาจขัดกับความรู้สึกของคนทั่วๆไป]
ผู้เข้าชมรวม
331
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผมเป็นหนึ่งในนักเรียนที่ไม่ค่อย คุ้นเคยกับการศึกษาของไทย ผมอาจจะมีความคิดแปลกๆไปนิดนะคับ
เมื่อมองภาพของประเทศไทยในวันนี้ เด็กๆอย่างเรา หลายคนๆ อาจจะไม่คิดว่าทำไม เราต้องไปคิดถึงมันปล่อยให้เป็นเรื่องของนักการเมืองให้พวกเขาบริหารกันไปดีกว่า หรือเราอาจคิดว่า เเค่เราคนเดียว ไม่ได้มีเส้นสาย จะไปทำอะไรให้มันเปลี่ยนแปลงได้
นั้นน่าจะเป็นความคิดส่วนใหญ่ของเรา เเต่เมื่อมองภาพความจริงวันนี้ของประเทศ ที่มีปัญหา ด้านการเมือง(ม็อบ เหลือง เดง), การท่องเที่ยว, ภาคใต้, ความจน, คนว่างงาน, จราจร
ปัญหาเหล่านี้ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เช่น 10 หรือ 20 ปี เเต่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของคนหนึ่งคนประมาณ 80-90 ปี มากกว่า.
ถ้ามองกลับไปใน สมัยอยุธยา เเล้วประเทศไทย ถูกเรียกว่า สยาม พวกเขารักสงบ เเละ ไม่ชอบรบกับใคร และเป็นประเทศอื่นมากกว่าที่จะก่อสงคราม พอมาถึงช่วง รัตนโกสินทร์ ความเจริญของโลกได้ก้าวเข้ามาทำให้หลยๆอย่างเปลี่ยนไป ทั้งนี้เกิดจาก การ ปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ ช่วงต่อมาก็จะเป็นช่วงที่เกิดสงคราม WW I, WW II
หลายๆคนคงทราบดีจากหนังสือ หรือคุณครู(ผมไม่เคยเรียนแบบไทย เเต่ผมทราบจากเเม่ผม) มาว่า ที่โรงเรียน คุณครูจะสอนว่า ประเทศของเรา นั้นดี เพราะไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใคร
ทำให้ผมคิดขึ้นมาว่า หรือเพราะประโยคนี้ที่ทำให้เรา เป็นอยู่แบบนี้ ถ้าให้ อ้างอิงอะไรนิดหน่อยมันจะเหมือน กับ potential energy ของสิ่งของซักอย่างหนึ่ง มันต้องการจะอยู่ในที่ๆมันพลังงานต่ำที่สุดเสมอเพื่อมันจะได้มีความเสถียร(stability) สูง เหมือน น้ำ ที่ต้องตกจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ซึ่งอาจเป็นพื้นเสมอ เมื่อน้ำอยู่บนพื้นเรียบมันก็จะไม่ไปไหน อีกเเล้ว จึงถามตัวเองว่า หรือน้ำบนพื้นนี้คือประเทศของเรา
มองไปที่ ญี่ปุ่น ประเทศที่ เสื่อมโทรมจาก WW II ทำไมเขาพัฒนามากมายจากเรามาก ทั้งๆที่ช่วงนั้น น่าจะแย่กว่าเราเพราะ เขาก็มีปัญหาเกี่ยวกับ ชนเผ่าในประเทศของเราเหมือนกัน คำตอบน่าจะเป็นปัญหา เกี่ยวกับว่าประเทศของเรา มี ป๋มด้อย ในคำว่า เอกราช เพราะเขาเคยสูญเสียมาก่อนจากการแพ้สงคราม
ถ้าเคยไป ญี่ปุ่นจะพบว่า คนของเขาแทบจะไม่พูดภาษาอังกฤษเลย ของทุกชิ้นแทบจะผลิตเเล้วใช้เองหมด ไม่ค่อยมีของนำเข้าจากต่างประเทศ ผู้คนของเขามีความรับผิดชอบมาก
ส่วนของการวิเคราะห์ของผมคิดว่า อยากจะยกตัวอย่างเป็นประเด็นคือ เรื่องของ การศึกษา, รัฐบาล, พื้นฐานประชากร
เริ่มที่เรื่องของการศึกษา พบว่าการศึกษาของไทย เป็นระบบที่ ค่อนข้างจะทำไปในสิ่งที่ซ้ำๆเดิมๆ
กล่าวคือ การเรียนนั้นทำไปเพื่อการสอบ ไม่ใช่การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน จากการที่จะพบเห็นได้ว่า มีการเรียนแบบ tutor มากมาย ซึ่งถ้าทราบว่า tutor คืออะไร จุดประสงค์ของมันจะเป็นเพื่อนการทำข้อสอบ พบรูปแบบในหนังสือของ SCHAUM"S outlines เเล้วผู้คนส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้รับการศึกษา และไม่เห็นความสำคัญของการศึกษา ทำให้มีอำนาจในการตัดสินใจต่ำ ส่งผลให้ ส่วนของการ รับข้อมูลนั้นเเคบ ไม่รู้จักวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มา ส่งผลการบริหารงานของประเทศ แบ่งแยกได้ง่าย ถ้ามีคนต้องการจะทำ กล่าวคือ ซื้อสื่อ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ(ไม่ต้องเเจกเงิน) ออกข่าว กลอกหูไปเรื่อยๆ ตามวิธีของการนำเสนอ.
นอกจาก นั้น พื้นฐานของประชาชนยังเป็นส่วนสำคัญ ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากประเด็นของการศึกษา
เมื่อประชาชนไม่ได้รับการศึกษา เเล้วนั้น ทำให้พวกเขา ไม่ทราบ ว่าสิ่งนี้ ถูกหรือผิด
เเต่ไม่ขอพูดในเเง่ศีลธรรมว่า ถูกหรือผิด เพราะมันขึ้นอยู่กับตัวบุคคล เเต่ขอให้พิจารณา พฤติกรรม ที่ชัดเจนว่า ผิด ตามที่ กฏหมายบัญญัติ เช่น ถ้าคุณเคยขับรถยนต์ คุณจะเซงมากเมื่อเจอ รถมอเตอร์ไซด์ ขับมาในเลนของคุณ
(ซึ่งทราบมาว่า เดี๋ยวนี้ใบขับขี่สามารถซื้อได้เเล้ว !) หรือเเม้กระทั่ง สูบบุหรี่ในห้องน้ำของโรงเรียน เเละอีกพฤติกรรมมากมายที่คุณสามารถคิดได้
และบุคคลเหล่านี้เมือ่เติบโตขึ้นมา ส่วนมากจะไม่ได้เป็นคนดี กล่าวคือ ไม่ได้ทำงานดีๆ เป็นกลุ่มผู้ใช้เเรงงาน (ส่วนมาก พบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ) สุดท้ายคนที่ได้รับการศึกษาไม่เพียงพอ หรือไม่ได้รับเลย สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตลงด้วย การทำงานที่ผิดกฏหมาย หรือผิดศีลธรรม เช่น การค้าประเวณี, ยาเสพติด, เป็นโจร หรืออาชีพที่ไม่สุจริตต่างๆ.
ประมาณได้ว่าคน 60 ล้านของประเทศ 80 เปอร์เซ็นคือกลุ่มคนที่กล่าวไว้ เเล้วอีก 20 เปอร์เซ็นก็เป็นคนที่ได้รับการศึกษาอย่างดีจากมหาวิทยาลัย ทำให้ผมมองว่า ความคิดที่จะนำประเทศของเรา ไปเป็นประเทศที่พัฒนาเเล้วเนี่ย มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้หรอกในอีก 200 ปีข้างหน้า ต้องรอจนกว่าคนรุ่นเราตายไปให้หมด และหวังว่าเด็กรุ่นใหม่จะมีจิตสำนึกในความต้องการที่จะพัฒนาประเทศจริงๆ
วันนี้คุณลองถามตัวเองซิว่า ถ้าคุณมีรถยนต์ คุณมีตังจะเติมน้ำมันรถ ได้ไม่จำกัด คุณจะยอมสละโอกาสนี้ขึ้นรถเมล์เพื่อใช้บริการระบบของสาธารณะหรือไม่ ถ้าคำตอบยังคงเป็นไม่ ประเทศก็ไม่มีวันจะก้าวไปได้ไกลกว่านี้หรอก
ขนาดความมีจิตสำนึกในจุดเล็กๆของประชาชนยังคิดว่า กูทำเเค่นี้ มันไม่ช่วยอะไรหรอก ยังเกิดขึ้น
ทุกอย่างที่หวังคงไม่มีวันมาถึง
เดี๋ยวมีต่อ เกี่ยวกับความคิดเรื่องเส้นสาย ที่เกิดขึ้นตั้งเเต่ เด็กอนุบาล ถึงรัฐบาล
ผลงานอื่นๆ ของ Darcy ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Darcy
ความคิดเห็น